การมาถึงของ Cryptocurrency ที่มีกระแสแรงขึ้นในช่วย 2-3 ปี มานี้ จากความผันผวนของตลาดสกุลเงินปกติเลยทำให้นักลงทุนต่างๆก็หันมาฝากอนาคตไว้กับ Bitcoin กันมากขึ้น แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญต่างๆก็ออกมาเตือนว่ามันอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกขึ้น แต่แล้วมันก็ยังแลดูที่คุ้มค่าจะนำมาครอบครองไว้ในช่วงเวลานี้อยู่ดี
ใดๆก็ตาม การครอบครอง Bitcoin ในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่ามันถูกกฎหมายหรือไม่และมีข้อจำกัดอื่นใดหรือเปล่า อย่างในประเทศไทยเราเองนั้นทาง ก.ล.ต. ก็อนุญาตให้เฉพาะ สกุลเงินดิจิตอลทั้ง 7 ให้สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้อย่างถูกกฎหมายได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Litecoin, Bitcoin Cash, Ethereum Classic และ Stellar
แต่เมื่อพูดกันตามตรงแล้วความคล่องตัวของการใช้งาน Bitcoin ในประเทศไทยเราเองนั้นไม่ได้คล่องตัวมากมายขนาดนั้น เพราะการยอมรับและปรับตัวใหเข้ากับการมาของเทคโนโลยียังไม่อาจสู้ อย่าง ญี่ปุ่น หรือ สหรัฐฯ ได้เลย แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคุ้มค่าที่จะหามาครอบครองกันก่อน เชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านน่าจะศึกษาการเล่นการใช้งาานของ Bitcoin กันมาบ้างแล้ววิธีการได้มาซึ่งการครอบครองเจ้าสกุลเงิน Bit Coin มีดังนี้
1.การขุด Bitcoin
เป็นการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ในการขุด Bitcoin ที่ใช้ความแรงเข้าสู้ในการถอดรหัสต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่ง Bitcoin IP ใหม่นั่นเอง ปัจจุบันนิยมใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กอย่าง ASIC ที่สร้างขึ้นมาเพื่อคำนวณและใช้ในการขุด Bitcoin โดยเฉพาะและใช้ GPU ในการเสริมกำลังงานขุดต่อ แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่จะดูต้องใช้ทุนทรัพย์และใช้เวลาพอสมควร
2.การซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin
ซึ่งการเลือกรูปแบบนี้คือรูปแบบที่เป็นที่นิยมมาก แต่เราจำเป็นต้องศึกษาจำพวกเว็บแลกเปลี่ยนให้ดี โดยทั่วไปแล้วการแลกเปลี่ยนซื้อขายจะมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ กระดานซื้อขาย, เว็บแลกเปลี่ยนโดยตรง และ เว็บแลกเปลี่ยนแบบ P2P ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
2.1 เวปกระดานซื้อขาย
เวปกระดานซื้อขายนั้นจะเป็นคล้ายดังตลาดหุ้นสมัยโบราณ ที่สามารถประกาศขายราคาของ Bitcoin ได้อย่างอิสระแล้วก็จะมีผู้ลงทุนอื่นๆที่สนใจเข้ามาซื้อ แต่ก็เหมือนกับตลาดหุ้นทั่วไปที่ถ้าหากคุณตั้งราคาBitcoin สูงไปกฌจะไม่มีใครมาซื้อหรือตั้งรับถูกเกินไปก็ไม่มีใครมาขายให้เช่นกัน ข้อดีของเวปแลกเปลี่ยนบนกระดานแบบนี้คือสภาพคล่องตัวสูงกว่าเวปแบบอื่นๆทั่วไป เพราะมีเทคโนโลยี Decentralization และมีตัวเลือกที่หลากหลายในราคาที่ถูกลงกว่าตลาดอื่นๆ แต่ก็ต้องยอมรับข้อเสียของมันในแง่ที่ความผันผวนในตลาดจะสูงมากกว่าเวปแบบอื่น อีกทั้งอาจจะมีความล่าช้าในการโอนหรือฝากเนื่องจากเป็นการฝากถอนกับกระดาน อีกทั้งยังมีเรื่องความปลอดภัยที่อาจจะดูต่ำกว่าเวปอื่นๆทั่วไปอีกด้วย ส่วนผู้เปิดให้บริการเวปกระดานซื้อขายในไทยก็อย่างเช่น Bitkub, Satang Pro
2.2 เวปแลกเปลี่ยนโดยตรง (Broker)
คือการแลกเปลี่ยนซื้อขายกับเจ้าของเวปโดยตรง โดยการซื้อขายแบบนี้จะมีข้อดีตรรงที่มันรวดเร็วมากที่สุด และมีความผันผวนของราคาที่ต่ำเพราะถูกกำหนดโดยเจ้าของเวป อีกทั้งยังมีระบบที่ Support กับลูกค้าของเวปเองโดยตรงอีก ส่วนข้อเสียเห็นๆเลยก็คือ สภาพคล่องตัวในการเทรดมันต่ำ เพราะ Spread สูงมากโดยการที่เก็งกำไรจากการตั้งราคาขายที่มีกระแสว่าจะแพงกว่าตลาดโลก อีกทั้งยังไม่รองรับสกุลเงิน Crypto แบบอื่นๆอีกด้วยสำหรับบางเวป เวปแบบนี้ในไทยก็อย่างเช่น Coins.co.th, Satang เป็นต้น
2.3 เวปแลกเปลี่ยนแบบ P2P
เวปแบบสุดท้ายนี้ดูเหมือนจะได้รับความนิยมนน้อยที่สุด เพราะมันทำงานเหมือนกับสถานที่หนึ่งที่รวมตัวนักลงทุนเพื่อให้มาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน เหมือนจับผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกันนั่นเอง โดยข้อดีของเวปแบบนี้คือมันปลอดภัยแน่นอน 100% เพราะการกดซื้อขายจะต้องทำผ่านระบบเท่านั้น ระบบจะต้องตรวจสอบจำนวนเงินที่ได้ก่อนถึงจะโอน Bitcoin ให้ผู้ซื้อทีหลัง อีกทั้งมันยังเข้าถึงได้ง่ายกว่าเวปทั่วไป เพราะมันไม่ต้องการการยืนยันตัวตนที่ซับซ้อนมากมายเลย แต่ก็ต้องแลกมากับข้อเสียที่ว่า Spread มันจะแพงมากๆและหากตั้งขายเองก็จะใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่จะมีคนเข้ามาซื้อ ผู้ให้บริการประเภทนี้ก็อย่างเช่น pooldax
จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นวิธีการเลือกซื้อ Bitcoin เข้ามาในครอบครอง ผู้ลงทุนท่านไหนกำลังมองหาช่องทางการแลกเปลี่ยนซื้อขาย Bitcoin แล้วล่ะก็ลองมองหาประเภทของเวปที่ตัวเองชื่นชอบและเข้าไปทดลองใช้งานกันได้เลย