วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 สำนักข่าว นิคเคอิ เอเชีย รายงานถึงความเคลื่อนไหวหลายบริษัทในญี่ปุ่นที่ต้องการจ้างงานต่างชาติในหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร และแรงงานในภาคบริการ เช่น ค้าปลีก ร้านอาหาร เป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูง ในบริษัทญี่ปุ่นโดยเฉพาะในธุรกิจไอทีที่ต่างใช้โอกาสที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดให้นักธุรกิจ นักศึกษาและผู้ฝึกงานเข้าประเทศได้ เปิดโอกาสเปิดรับพนักงานชาวต่างชาติกันอย่างคึกคัก
เริ่มกระบวนการเปิดรับพนักงานทั้งกลุ่มที่มีประสบการณ์ และพนักงานใหม่จากอินเดียและสหรัฐอเมริกา โดยโฆษกของบริษัทระบุว่า กลุ่มพนักงานใหม่จะเริ่มฝึกงานช่วงฤดูร้อนปี 2565 หรือประมาณเดือนมิถุนายน 2565 ที่จะถึงนี้เช่นเดียวกับ Mercari แพล็ตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสสินค้ามือสองใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เตรียมเปิดตำแหน่งสำหรับวิศวกรชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน ส่วน Rakuten Group ยักษ์ไอทีสัญชาติญี่ปุ่น แม้จะยังไม่มีการเปิดรับ แต่ก็แสดงความสนใจดึงชาวต่างชาติเข้ามาช่วยขยายธุรกิจ
นอกจากวิศวกรสายไอทีแล้ว วิศวกรด้านอื่นๆ ยังเป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่งต้องการวิศวกรเข้าไปคุมงานด้านต่างๆ เช่น สายการผลิต เช่นเดียวกับแรงงานในธุรกิจด้านบริการอย่าง ค้าปลีก ร้านอาหาร จัดหางาน สารสนเทศและการสื่อสาร ฯลฯ ที่มีความต้องการแรงงานสูงเช่นกัน สะท้อนจากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น ที่เปิดเผยว่า ปี 2563 ที่ผ่านมา มีนักศึกษาต่างชาติประมาณ 3 หมื่นคน ได้รับใบรับรองให้ทำงานในญี่ปุ่น ซึ่งนายจ้างส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในกลุ่มธุรกิจบริการอย่างไรก็ตาม ความหวังที่จะได้แรงงานจากต่างชาติเข้ามาช่วยขยายธุรกิจ และการเข้าไปทำงานในญี่ปุ่นนั้น ยังมีโจทย์ที่ต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นชนิดของวัคซีนโรคโควิด-19 ที่แต่ละประเทศใช้แตกต่างกัน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการนำเข้าแรงงานที่จะเพิ่มสูงขึ้น การจ้างพนักงานจากประเทศใช้วัคซีนซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นไม่รองรับ ทำให้หากเดินทางเข้าประเทศจะต้องกักตัวเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการเดินทางมีแนวโน้มจะสูงขึ้นหากดีมานด์การเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างปัจจุบัน