ผู้อำนวยการด้านการตลาด บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารสุนัขและแมว ภายใต้แบรนด์ โรยัล คานิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าตลาดรวมราว ๆ 4.18 หมื่นล้านบาท
ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหลังจากที่ตลาดนี้เติบโตสูงในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ การทำงานที่บ้านที่หนุนให้ผู้บริโภคหันมาเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการเลี้ยงสุนัขและแมวที่ได้รับความนิยมสูงและมีการเลี้ยงสัตว์เหมือนเป็นสมาชิกครอบครัว ปัจจัยสำคัญจากความผูกพันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะของตลาดทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงยังคงทุ่มเม็ดเงินในการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงของตนอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตสวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจ นอกจากอาหารที่เป็นเรือธงแล้วกลุ่มอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรมอย่างปลอกคอที่ช่วยเก็บข้อมูลสุขภาพ เครื่องให้อาหาร ฯลฯ กลายเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์มากขึ้นด้วยเช่นกัน อีกด้านหนึ่งก็ทำให้มีธุรกิจใหม่ บริการใหม่ สำหรับสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้นตามมาสะท้อนจากอาหารสุนัข-แมวที่เติบโตสูงและมีความหลากหลายตั้งแต่อาหารระดับแมสไปจนถึงพรีเมี่ยม เช่น อาหารที่เป็นออร์แกนิก รวมถึงการมีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก
ซึ่งคาดว่าปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดหลายร้อยแบรนด์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 50% จากช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าสัตว์เลี้ยงที่ขยายตัวทั้งการขยายสาขาของรายเดิม
และผู้เล่นรายใหม่ นอกจากนี้ยังได้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงตามมา เช่น บริการกรูมมิ่ง หรือเสริมความงาม ธุรกิจโรงแรม สระว่ายน้ำ สปา สำหรับสัตว์เลี้ยง
ปีนี้บริษัทจะเพิ่มความเข้มข้นของการตลาด โดยเน้นการแบ่งตามสายพันธุ์ วิธีเลี้ยงระบบปิด-เปิด โดยมุ่งให้ความรู้ว่าสุนัขและแมวแต่ละสายพันธุ์มีความต้องการอาหารแตกต่างกัน หากอาหารไม่เหมาะสมอาจเกิดโรคอ้วน หรืออื่น ๆ โดยใช้ App Royal Canin Club เป็นช่องทางในข้อมูลความรู้ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
เช่น คูปองส่วนลด สะสมแต้มแลกของพรีเมี่ยม กิจกรรมร่วมสนุก ร่วมกับการเดินสายจัดกิจกรรม และสนับสนุนร้านสินค้าสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสำคัญ อาทิ ออกบูททำโปรโมชั่นในร้าน เพื่อสร้างการรับรู้และรับมือการแข่งขัน พร้อมวางเป้าเติบโตดับเบิลดิจิต โดยมีกลุ่มแมวเป็นตัวสร้างยอดขายหลัก