หลังจากผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจกันมาได้เพียงแค่ช่วงสั้นๆ เศรษฐกิจกำลังจะเติบโตไปในทางที่ดี ทั้งดัชนีชี้วัดต่างๆ และกระแสหุ้นต่างๆ ก็กลับมาดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าพิษโควิด-19 กำลังกลับมาหวนทำร้ายเหล่า พ่อค้า-แม่ขาย และ ประชาชนน้อยใหญ่ในระบบเศรษฐกิจกันอีกแล้ว
เมื่อครั้งที่เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญหน้ากับการระบาดของโควิด-19 ที่ต้องทำให้ระบบเศรษฐกิจโลกรวนและซบเซาลงจนแทบจะกลายเป็น Great Depression ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 90 ปีก่อนจนกลัวว่าจะหวนกลับมาไม่ได้อีกเป็นระยะเวลายาว แต่นับถึงตอนนี้ก็น่าจะเป็นบทพิสูจน์ได้แล้วว่า เศรษฐกิจโลกกำลังหนีห่างออกจากการซ้ำรอยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ดังเช่นอดีต
การค้นพบวัคซีนและรับรองว่าใช้งานได้จริงแล้วนั้นส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจในระยะสั้นๆเพียงเท่านั้น เรียกได้ว่าลูกคลื่นที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยเราเองดีขึ้น เป็นเพียงแค่ลูกคลื่นสั้นๆ เพราะตามกระแสโลกที่วัคซีนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชากร ก็ดูเหมือนว่าวิกฤติในครั้งนี้แม้คลี่คลายแล้วก็ยังคงต้องอมทุกข์กันต่อไปเป็นพักๆ ในแง่ของการระบาดรอบนี้ดูเหมือนว่าจะส่งผลแย่มากกว่ารอบแรกสำหรับ ธุรกิจบางประเภท อย่างที่นักธุรกิจหลายๆคนจะรู้จักบริษัทจำพวกซอมบี้ ที่ใช้เงินทุนหนุนกิจการตนเองให้อยู่รอดไปวันๆรอคอยวันปิด การกลับมาระบาดรอบสองก็เหมือนกับเป็นใบสั่งปิดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะเดียวกันที่นักธุรกิจนักวิชาการต่างๆก็ออกมาชี้ว่าผลกระทบจากการระบาดรอบสองจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงก็จริงแต่จะไม่รุนแรงเท่ากับรอบแรก เรียกได้ว่าเจ็บเหมือนกันแต่เจ็บน้อยกว่า เพราะต้องอย่าลืมว่าแม้ในประเทศไทยเราเองนั้นจะดูเหมือนมีการระบาดที่รุนแรงกว่ารอบแรก แต่ในขณะเดียวกันกระแสเศรษฐกิจโลกกำลังดีขึ้นไปเรื่อยๆเนื่องจากการเข้าถึงของวัคซีนในแต่ละประเทศ
ส่วนผลกระทบในด้านการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาบอกชัดเจนว่า มันจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นแน่แท้ เพราะฉนั้นเศรษฐกิจไทยคงจะชะลอการฟื้นตัวไปอีกสักระยะหนึ่งและอาจจะใช้เวลายาวนานมากกว่า 2 ปีกว่าภาคธุรกิจต่างๆจะสามารถลืมตาอ้าปากกลับมาได้ดังเดิม
ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการขยายหรือหดตัวของเศรษฐกิจก็ขึ้นอยู่กับนโยบายที่ตอบสนองต่อความรุนแรงของการระบาด ยิ่งมีนโยบายคอยกีดกันผู้ค้ารายย่อยมากเท่าไหร่ก็เหมือนกับพีระมิดที่ร่วงลงมาจากฐาน เราก็ได้แต่หวังว่ามาตรการต่างๆของรัฐจะช่วยบรรเทาและ ช่วยเหลือภาคธุรกิจได้อย่างจริงจังแต่ไม่ว่าภาคเอกชนหรือภาครัฐก็ต้องช่วยกันประคับประคองเศรษฐกิจไปเรื่อยๆจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งที่2 นี้ไปด้วยกันอีกครั้ง