ช่วงโค้งท้ายของปี 2564 นี้ ธุรกิจร้านอาหารทั้งในฝั่งเอเชียและสหรัฐอเมริกายังคงเผชิญอุปสรรคต่อเนื่องเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ทำให้ล่าสุดต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ อาทิ เครื่องปรุง เนื้อสัตว์ต่างปรับราคาขึ้น ในขณะที่อุปกรณ์ที่จำเป็นในการใส่น้ำและอาหารกลับขาดแคลนจนทำให้การทำกำไรในช่วงท้ายปีกลายเป็นความท้าทาย
สำนักข่าว “นิกเคอิ เอเชีย” รายงานสถานการณ์ สาเหตุ และผลกระทบต่อวงการธุรกิจร้านอาหารว่า นับตั้งแต่เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ราคาวัตถุดิบอาหารในจีนและญี่ปุ่น ต่างปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยในจีนราคาวัตถุดิบพื้นฐานอย่างซอสปรุงรส น้ำส้มสายชู น้ำมันงา ถั่ว ต่างพุ่งขึ้นในระดับ 5-18% ส่วนในญี่ปุ่นราคาเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐที่ปกติเป็นสินค้าราคาประหยัดเมื่อเทียบกับเนื้อวากิวกลับแพงขึ้นเช่นเดียวกัน
ด้านสหรัฐอเมริกากลับเผชิญปัญหาที่แตกต่างกันออกไป คือแม้วัตถุดิบในการผลิตอาหารจะเพียงพอ แต่อุปกรณ์สำหรับใส่อาหารลูกค้าอย่างแก้วกระดาษ-พลาสติก หลอดดูดน้ำและกล่องใส่อาหาร กลับขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากหลายรัฐจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคแล้ว แต่ยอดสั่งอาหารกลับไปทานที่บ้านยังสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดถึง 20% ตรงข้ามกับโรงงานและผู้นำเข้าที่ต้องเจอปัญหาการขนส่งล่าช้า “เดวิด เพอคอรี” ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ ระบุว่า ดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการคลายล็อกดาวน์ ผสมกับปัญหาการขนส่ง ทำให้ผู้ผลิตและนำเข้าปรับตัวตามไม่ทัน ในที่ลูกค้าหลายรายยอมจ่ายแบบไม่เกี่ยงราคา เพื่อให้ได้สินค้ามาใช้งาน ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนถึงความท้าทายในธุรกิจร้านอาหารที่แม้หลายประเทศจะคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ยังต้องวิ่งวุ่นหาทางรับมือโจทย์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโควิดอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้ตัวเลขผลประกอบการปีนี้ไม่สวยงามอย่างที่หวังไว้