วันที่ 31 ตุลาคม 2564 นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดสมุนไพรทั่วโลกมีมูลค่าราว 9.18 หมื่นล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากเมกะเทรนด์โลกที่ใส่ใจสุขภาพ ส่งผลให้สินค้าเพื่อสุขภาพ อาทิ กลุ่มยา เครื่องสำอาง ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสมุนไพรอยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นสมุนไพรไทยในกลุ่มอาหารเสริม 8 หมื่นล้านบาท กลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์ 1 หมื่นล้านบาท และกลุ่มยาแผนโบราณ 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนประเทศที่มีมูลค่าทางการตลาดของสมุนไพรสูงที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน และ ภูมิภาคเอเชีย
ดังนั้น กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงเร่งขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาสมุนไพรไทยต้นน้ำยันปลายน้ำ ควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทยภายใต้แนวคิด “ตลาดนําการผลิต” โดยเน้นผลิตสมุนไพรที่มีศักยภาพ และเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ขมิ้นชัน ไพล บัวบก กระชายดำ ฟ้าทะลายโจร กระชาย กระวาน ข่า ขิง คำฝอย เป็นต้น
พร้อมกับส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐานของภูมิภาคอาเซียน และมีช่องทางการจัดจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพร ทั้งแบบสดและแปรรูปที่ได้คุณภาพมาตรฐาน เพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมสมุนไพรในประเทศ ตลอดจนส่งออกต่างประเทศ สร้างรายได้เพิ่มให้แก่กลุ่มเกษตรกรและเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงตลาดในช่องทางใหม่ๆทั้งผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ PMHA (Prime Minister Herbal Award) และผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ PHP (Premium Herbal Product)เพื่อผลักดันสินค้าสมุนไพรไทยเข้าสู่ตลาดโลกได้ง่ายทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปี 2564 ตลาดผลิตภัณฑ์ สมุนไพรของประเทศไทยน่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 5 หมื่นล้านบาท