แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) ประเทศเกาหลีใต้ เผยผลประกอบการประจำปี พ.ศ. 2565 ที่ 83.5 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.21 ล้านล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 3.6 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 9.54 หมื่นล้านบาท)
การเติบโตนี้เป็นผลจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบบพรีเมียมและกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ โดยยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีการเติบโตสูงต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ขณะที่ธุรกิจโซลูชั่นชิ้นส่วนยานยนต์ของบริษัทฟื้นตัวจนทำรายได้เกิน 10 % ของรายได้รวมเป็นครั้งแรก
โดยบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีเพื่อเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจและเร่งผลักดันการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ แอลจีจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันด้วยการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ทีวีพรีเมี่ยม เช่น ทีวี OLED และ ทีวี QNED และบริหารงบประมาณการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 29.1% ในปี พ.ศ. 2565 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2564 ด้วยผลประกอบการมูลค่า 8.6 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.28 แสนล้านบาท) โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งปีที่ 169.6 พันล้านวอน (หรือประมาณ 4.49 พันล้านบาท)
การเติบโตของผลกำไรดังกล่าวได้แรงหนุนจากความต้องการใช้รถยนต์ที่สูงขึ้น มูลค่าการสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์สะสม สิ้นปี พ.ศ. 2565 อยู่ที่ประมาณ 80 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.12 ล้านล้านบาท) ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก
ทั้งนี้ แอลจีจะยังคงมุ่งมั่นเสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรผ่านการจัดสรรโครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามในอนาคต บริษัทจะมุ่งยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และจอภาพ พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ B2B อย่างมั่นคง ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กรอย่างต่อเนื่อง