ปัญหาสำคัญแต่เดิมจะเป็นไข้หวัดใหญ่กับ RSV และในสมัยก่อนเราไม่ได้ตรวจ เพราะวิธีการตรวจยุ่งยาก ไม่เหมือนสมัยนี้ ทั้งโควิด-19 RSV และไข้หวัดใหญ่ มีวิธีการตรวจแบบ ATK จึงทำให้พบโรคดังกล่าวมากขึ้น
การระบาดของโรคทั้ง 3 นี้จะอยู่ในฤดูกาลเดียวกัน เป็นโรคประจำฤดูกาล และจะมีปัญหาในกลุ่มเสี่ยง คือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือที่เรียกว่า 608
RSV เป็นโรคที่มีมาแต่โบราณ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถพัฒนาวัคซีนมาใช้ป้องกันได้ โรคนี้เป็นแล้วเป็นอีกได้ จากช่วงวัยเด็กจนโตขึ้นมาจนถึง 5 ปี แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่เคยเป็น และแต่ละคนเป็นแล้วเป็นได้อีก บางคนเป็นทุกปี ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากแม่จะส่งมายังลูก และจะอยู่ประมาณ 6 เดือน ถึงมีภูมิต้านทานส่งต่อมาจากมารดา เด็กเล็กก็เป็นได้และมีอาการรุนแรงแต่ส่วนใหญ่จะพบหลังจากที่ภูมิส่งต่อจากมารดาหมดลงแล้ว คือตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ไวรัสนี้มีหลายสายพันธุ์ และจากการติดตามถึงสายพันธุ์เดียวกันก็สามารถเป็นซ้ำได้อีก ความรุนแรงจะมากในขวบปีแรก และเมื่อโตขึ้น ความรุนแรงของโรคก็จะน้อยลง เช่นเดียวกันผู้ใหญ่ก็เป็นได้แต่อาการน้อย และจะไปมีอาการมากในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้สูงอายุ 608 ไม่มียารักษาโดยตรง รักษาตามอาการ ส่วนใหญ่หายเป็นปกติ
ไข้หวัดใหญ่ก็เช่นเดียวกัน มีหลายสายพันธุ์ ทั้ง A และ B ที่ระบาดอยู่ในปีนี้เป็นไข้หวัดใหญ่ A สายพันธุ์ H3N2 เกือบทั้งหมด ที่ศูนย์เราติดตามสายพันธุ์อยู่ตลอด วัคซีนป้องกันได้แต่ประสิทธิภาพไม่สูง ฉีดวัคซีนแล้วก็เป็นได้ แต่อาการจะลดลง เช่นเดียวกันกับ covid-19
เช่นเดียวกัน covid-19 ก็เป็นโรคประจำฤดูกาลไปแล้ว ก็จะพบในฤดูกาลเดียวกัน คือฤดูฝน และจะน้อยลงในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม และจะไปเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในเดือนมกราคมถึงมีนาคม แล้วค่อยลดลงอีก แล้วไปเพิ่มอีกครั้งหนึ่งหลังจากกลางเดือนมิถุนายนอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้การดูแลรักษาดีขึ้น อัตราการเสียชีวิตดังกล่าวลดลงอย่างมาก ถ้าเปรียบเทียบกับสมัยที่ผมดูแลผู้ป่วยเมื่อ 40 ปีก่อน เรารักษาปอดบวมในผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก โดยบางครั้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสาเหตุจากอะไร