บริษัท เซ็นทรัลเรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้แนวโน้มตลาดร้านอาหารกลับมาคึกคักขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน เชนร้านอาหารรายใหญ่ ก็เริ่มกลับมาลงทุนในการเร่งขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการเร่งขยายพอร์ตโฟลิโอ จึงทำให้มีแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้มีการแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นในขณะเดียวกัน CRG ก็พร้อมเดินหน้าธุรกิจเต็มพิกัด ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เพิ่มช่องทางการขาย พัฒนาเมนูใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ทุกกลุ่มอายุ ทุกไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงการเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ เพื่อสร้างยอดขาย
โดยเตรียมเปิดสาขาแรกที่ สยามสแควร์ วัน ชั้น 4 ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 และมีแผนจะขยายเฟสแรก 4-5 สาขาเพื่อทดลองตลาด ถ้าไปได้ดีพร้อมเปิดครบ 20 สาขา ในปี 2566 โดยตั้งเป้าปี 2565 กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นจะสามารถสร้างการเติบโตมากกว่า 35% และจุดเด่นของแบรนด์นี้คือ ราเมนซุปทงคัตสึ (ซุปกระดูกหมู) ซึ่งจะนำมาสู้ในตลาดราเมนที่มีสารพัดแบรนด์ ด้วยราคาที่จับต้องง่ายกว่า เริ่มต้นที่ 150 บาทก็ได้ทานราเมนทงคัตสึ จากปกติเมนูนี้ในร้านอื่นจะราคาค่อนข้างสูงนอกจากจะเปิดตัวแบรนด์ราเมน แบรนด์ใหม่จากญี่ปุ่นแล้ว ในปีนี้ยังมีเดินหน้าปั้น คาโคมิ (Kakomi) ซึ่งเป็นแบรนด์ชุดข้าวกล่องย่างถ่านสไตล์ญี่ปุ่น ในราคาเข้าถึงง่าย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมถึงแผนการขยาย Category อื่น ๆ ที่ยังไม่มีในพอร์ตโฟลิโอเพิ่มเติมอีกด้วย ถือเป็นการเดินหน้าครั้งสำคัญในกลุ่มอาหารญี่ปุ่นของ CRG เพราะกลุ่มตลาดนี้บริษัทไม่ได้เปิดแบรนด์ใหม่มาแล้ว 8 ปี ปัจจุบันกลุ่มอาหารญี่ปุ่น CRG มีทั้งหมด 6 แบรนด์ คือ โอโตยะ, โยชิโนยะ, คัตสึยะ, ชาบูตง, เปปเปอร์ ลันช์ และเทนยะ