บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น 2 ปีเต็ม ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่าอยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท ลดลง 11% จากปีก่อนหน้าขณะที่ร้านอาหารประเภทเบอร์เกอร์ มูลค่าตลาดราว ๆ 9,000 ล้าน ลดลงด้วยเช่นกันรวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง และทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนมากขึ้น
สำหรับแมคโดนัลด์เอง แม้ช่วงโควิดระบาดจะมีความท้าทายอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาส จากเดิมแมคโดนัลด์มีความแข็งแกร่งด้านแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ จึงหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางดีลิเวอรี่ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (digital) มาใช้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และออกแบบแพลตฟอร์ม แมคโดนัลด์ แอปพลิเคชั่น ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคใหม่และทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ และจัดโปรโมชั่นผ่านแพลตฟอร์มการสั่งอาหาร รวมถึงการร่วมมือกับแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ต่าง ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างนี้ ทำให้ปี 2564 และครึ่งปีแรกของปี 2565 ยอดขายเติบโต 30% ดีลิเวอรี่ เติบโตขึ้นกว่า 236% ส่วนไดรฟ์ทรูโต 34%
แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ แมคโดนัลด์ให้ความสำคัญกับ 4 กลยุทธ์หลัก เริ่มจากการจัดทำระบบ digital food safety สำหรับใช้ในร้านแมคโดนัลด์ เพื่อตรวจสอบคุณภาพอาหารให้ได้ตามมาตรฐานระดับโลกของแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของร้านอาหารในไทยที่มีการนำเทคโนโลยีคลาวด์และ IOT (internet of things) มาใช้ในการเก็บและประมวลผลข้อมูลด้าน food safety
โดยจะนำไปใช้กับสาขาทั้งหมดภายในปี 2565 รวมไปถึงการนำนวัตกรรมอินโนเวชั่นมาใช้พัฒนาเมนูทั้งเมนูหลัก อย่างเบอร์เกอร์และไก่ ตลอดจนเมนูซิกเนเจอร์ใหม่ ๆ ให้มีรสชาติแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ชูจุดขายเรื่องคุณภาพ และราคาเข้าถึงง่าย
พร้อมกับการจัดโปรโมชั่นให้ตรงกับความตรงการของผู้บริโภค ในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ ได้จัดโปรโมชั่น ชุดสุดคุ้ม สุขทุกวัน ในราคา 99 บาท กับเบอร์เกอร์ถึง 4 ชนิด พร้อมกับเฟรนช์ฟราย และเครื่องดื่มโค้ก ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากกว่าเงินที่จ่ายไป โดยตั้งเป้าว่าโปรโมชั่นดังกล่าว จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ร้านเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า